วันเสาร์ที่ 19 ตุลาคม พ.ศ. 2556
เอาโลโก้ Bandicam ออกจากวิดีโอ
ก่อนอื่นก็แนะนำก่อนว่ามันเป็นโปรแกรมอัดวิดีโอจากหน้าจอ desktop จะอัดวิดีโอจาก Youtube ก็ได้ อัดเกมส์ที่กำลังเล่นอย่างเมามันส์ อัดหนังเกาลีที่ฉายออนไลน์อยู่ ความจริงแล้วก็มีหลายโปรแกรมแต่เราชอบตัวนี้ง่ายดี มีจับหน้าจอให้อัตโนมัติเจ๋งดี
โลโก้หรือข้อความจะโชว์เมื่อเราใช้แบบ tail ถ้าไม่อยากให้มีแน่นอนคุณต้องจ่ายเงินซื้อ แต่น่ะเราเป็นพวกไม่มีเงินซื้อโปรแกรมการ Crack เลยเป็นวิถึโจรของเราล่ะ
เราต้องใช้ keymarker ค่ะจะมีอยู่แล้วตอนเราโหลดจากพวก Bittoren แต่ถ้าไม่อยากหาก็เอาจาก link ข้างล่างค่ะ
http://www.mediafire.com/?9jwpz6wg6kyn49e
ต้องขอบคุณวิธีติดตั้งจากเว็บไซต์นี้ค่ะ allprogramshacks
ประเด็นคือคุณต้องคลิกเจ้า keymarker.exe สองรอบ โดยต้อง Run แบบ admin คือ คลิกขวาที่ Icon เลือก Run as adminstrator
ขอยืมรูปมาจากเว็บไซต์ allprogramshacks แปะค่ะ
คลิกรอบแรกมันจะโชว์ว่าคุณได้ทำการ Registered แล้ว แต่พอเปิดโปรแกรมก็จะเจอ error ฟ้องว่าคุณยังไม่ได้ลงทะเบียนเลยน่ะ หน้าแท็บ "About" จะขึ้นคำว่า "Unregistered"
คลิก keymarker.exe รอบสองค่ะ คราวนี้จะขึ้นว่าเราทำการ Register แล้ว พอเราอัดวิดีโอก็จะไม่มีโลโก้ Bandicam ล่ะ
เอาโฆษณา Ads not by this site ออกจาก Browser
เวลาใช้เว็บไซต์หรือแม้กระทั่ง Youtube มักจะมีโฆษณาติดมาด้วยตลอด แรกๆก็เข้าใจว่าอาจจะเป็นของตัวเว็บไซต์เอง แต่ความจริงแล้วเครื่องเราตั้งหากที่โดนไวรัสเข้าอย่างจัง
เวลาดู Youtube คลิกเม้าส์โดนทีไรก็ดังว่า "คุณได้รับข้อความใหม่.." ความรำคาญอยู่ในระดับ level 2 พอทน ด้วยความโง่ ก็ทนใช้เป็นปีเลย
พึ่งสังเกตุใต้โฆษณามีข้อความว่า "Ads not by this site" (ติ้ง..เสียงในหัวคิดออก เราก็พบความจริง) เลยหาวิธีลบไปเจอกระทู้นี้ใน pantip ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง (-/\-) http://pantip.com/topic/31097746
โปรแกรม malwarebyte ช่วยได้จริงๆ หาโหลดได้จาก Google หรือ 4share จะเอาจาก Link นี้ก็ได้ค่ะ
http://www.4shared.com/zip/nE4Kvw_p/malwarebytes_anti-malware_1600.html
ไปหาโหลดกันมาซะน่ะ ใช่ดีจริงๆ การติดตั้งหรอก็คลิก next ไปเรื่อยๆ ฮาๆ เราเลือกใช้ภาษาไทยอ่ะภาพข้างล่างโปรแกรมเลยออกแนว google translate (T_T) สำหรับเรา ก่อนติดตั้งเสร็จก็จะมีให้อัพเดพไวรัส ก็อัพไปพอเสร็จก็จะมีหน้าให้สแกน
โชว์ไวรัสโอโห้เยอะแยะไปไหน กด "แสดงผลลัพธ์"
คลิกเลือกตัวไวรัสทั้งหลายแหล่ จากนั้นก็ลบมันโดยคลิกที่ "เอาที่เลือกออก"
วันนี้เลยได้หัวข้อเขียนบล็อกเพื่อเผยแพร่อีกทางหนึ่งค่ะ อย่าหลงตกเป็นเหยื่อโฆษณาพวกนั้นเลย ไล่มันออกไปไวรัสที่ไม่จำเป็นในชีวิต
เวลาดู Youtube คลิกเม้าส์โดนทีไรก็ดังว่า "คุณได้รับข้อความใหม่.." ความรำคาญอยู่ในระดับ level 2 พอทน ด้วยความโง่ ก็ทนใช้เป็นปีเลย
พึ่งสังเกตุใต้โฆษณามีข้อความว่า "Ads not by this site" (ติ้ง..เสียงในหัวคิดออก เราก็พบความจริง) เลยหาวิธีลบไปเจอกระทู้นี้ใน pantip ขอกราบขอบพระคุณอย่างสูง (-/\-) http://pantip.com/topic/31097746
โปรแกรม malwarebyte ช่วยได้จริงๆ หาโหลดได้จาก Google หรือ 4share จะเอาจาก Link นี้ก็ได้ค่ะ
http://www.4shared.com/zip/nE4Kvw_p/malwarebytes_anti-malware_1600.html
ไปหาโหลดกันมาซะน่ะ ใช่ดีจริงๆ การติดตั้งหรอก็คลิก next ไปเรื่อยๆ ฮาๆ เราเลือกใช้ภาษาไทยอ่ะภาพข้างล่างโปรแกรมเลยออกแนว google translate (T_T) สำหรับเรา ก่อนติดตั้งเสร็จก็จะมีให้อัพเดพไวรัส ก็อัพไปพอเสร็จก็จะมีหน้าให้สแกน
โชว์ไวรัสโอโห้เยอะแยะไปไหน กด "แสดงผลลัพธ์"
คลิกเลือกตัวไวรัสทั้งหลายแหล่ จากนั้นก็ลบมันโดยคลิกที่ "เอาที่เลือกออก"
วันนี้เลยได้หัวข้อเขียนบล็อกเพื่อเผยแพร่อีกทางหนึ่งค่ะ อย่าหลงตกเป็นเหยื่อโฆษณาพวกนั้นเลย ไล่มันออกไปไวรัสที่ไม่จำเป็นในชีวิต
วันศุกร์ที่ 30 สิงหาคม พ.ศ. 2556
ความแตกต่างระหว่าง GROUP BY กับ ORDER BY
ORDER BY => ถ้ามี order By ข้อความจะถูกจัดเรียง A-Z การจัดอันดับว่าจะเรียงแบบไหน Asc คือเรียงจากน้อยไปมากใหม่ไปเก่า ส่วน Desc ก็จะตรงข้ามกัน
GROUP BY => เมื่อเราพบคำที่ซ้ำกันและต้องการจัดกลุ่มให้แสดงแค่คำเดียวเราจะใช้ GROUP BY คือการจัดกลุ่มของคำให้มีคำซ้ำกันร่วมกลุ่มกัน เช่นชื่อเมือง จะเห็นว่า เวลาจะ select ให้มาแสดงมันจะแสดงคำที่ซ้ำกันด้วย "Bruxelles" แต่ถ้าใช้ GROUP BY จะแสดงอยู่คำเดียว
GROUP BY => เมื่อเราพบคำที่ซ้ำกันและต้องการจัดกลุ่มให้แสดงแค่คำเดียวเราจะใช้ GROUP BY คือการจัดกลุ่มของคำให้มีคำซ้ำกันร่วมกลุ่มกัน เช่นชื่อเมือง จะเห็นว่า เวลาจะ select ให้มาแสดงมันจะแสดงคำที่ซ้ำกันด้วย "Bruxelles" แต่ถ้าใช้ GROUP BY จะแสดงอยู่คำเดียว
วันอาทิตย์ที่ 25 สิงหาคม พ.ศ. 2556
การสร้างตารางที่เป็นแบบ auto run number
ความที่เวลาฝึก Insert in to table ไม่อยากจะใส่เจ้าตัวเลย ID ทั้งหลายแหล่ อยากให้มันรันของมันไปเองเรื่อยๆ
1 2 3 4...... แบบภาพข้างล่าง
ID จะเป็นค่าว่าง null ไม่ได้ เพราะถ้าใส่ไม่ครบก็จะ Insert ข้อมูลไม่ได้ (บังคับให้เป็น not null) เลยค้นหาวิธี และพึ่งจะรู้ว่ามันต้องสร้าง sequence ขึ้นมาเพื่อ tag ตาราง เฮ้อ Oracle นี้ชอบทำไรยากกว่าชาวบ้านเค้าจริงๆ
อันนี้ Code ค่ะ ได้มาจากเว็บไซต์ w3school.com ช่างเป็นเว็บไซต์การเรียนรู้ที่เลิศที่สุดในสามโลกค่ะ
1 2 3 4...... แบบภาพข้างล่าง
ID จะเป็นค่าว่าง null ไม่ได้ เพราะถ้าใส่ไม่ครบก็จะ Insert ข้อมูลไม่ได้ (บังคับให้เป็น not null) เลยค้นหาวิธี และพึ่งจะรู้ว่ามันต้องสร้าง sequence ขึ้นมาเพื่อ tag ตาราง เฮ้อ Oracle นี้ชอบทำไรยากกว่าชาวบ้านเค้าจริงๆ
อันนี้ Code ค่ะ ได้มาจากเว็บไซต์ w3school.com ช่างเป็นเว็บไซต์การเรียนรู้ที่เลิศที่สุดในสามโลกค่ะ
CREATE TABLE Customers (CustomerID int NOT NULL, CustomerName varchar(255) NOT NULL, ContactName varchar(255), Address varchar(255), City varchar(255), PostalCode varchar(255), Country varchar(255), PRIMARY KEY (CustomerID));สำหรับ oracle ต้องสร้าง sequence หากต้องการทำการ auto run number ของ IDให้รัน 1 2 3 4......
CREATE SEQUENCE seq_custom MINVALUE 1 START WITH 1 INCREMENT BY 1 CACHE 10;เวลานำข้อมูลเข้าต้องใส่ "ชื่อของsequen.nextval"
INSERT INTO Customers (customerid, CustomerName, ContactName, Address, City, PostalCode, Country) VALUES (seq_custom.nextval,'Cardinal','Tom B. Erichsen', 'Skagen 21','Stavanger','4006','Norway');***ดิฉันยังไม่ทราบการรัน ID แบบที่ไม่ใช่ตัวเลขอย่างเดียว ถ้าใครผ่านมาแล้วมีวิธีก็โปรดแนะนำด้วยค่ะ
การติดตั้ง Oracle Database 11g กับ SQL developer
ในคาบเรียนไม่รู้ว่าหลับบ้าง ขึ้เกียจบ้าง เกรดและความรู้วิชา DB นี้จึงน้อย เลยเถิดไปจนเกรดที่ได้ดี (D+) ช่วงนั้นอยู่ในวัยกำลังกินกำลังนอน (เยอะไป)ฮา เอาล่ะวันนี้จึงอยากจะเรียนรู้พื้นฐานเองเริ่มจากการติดตั้ง
อันดับแรก Download โปรแกรมจำลองฐานข้อมูลในเครื่องเราก่อน เครื่องที่ใช้อยู่เป็น Windows 7, 32 bit แต่ถ้าเป็นแบบ 64 bit ตัว Oracle ไม่รองรับและลงไม่ได้
สามารถ Download ได้จากลิงค์ข้างล่างหากใครไม่อยากยุ่งยากในการสมัครเว็บ Oracle ค่ะ อีกอย่างต้องมี JDK version 7 หรือ 6 ค่ะ แต่ต้องระวังค่ะ หากลง JDK 7 ต้องลง SQL developer version 4 (ล่าสุด) เพราะจะมีปัญหาในการ Connection ฐานข้อมูลค่ะ แต่ถ้าเป็น JDK 6 ก็ลง SQL developer version ที่ต่ำลงได้ค่ะ (แต่ที่ทำเป็น JDK 7 ค่ะ)
- jdk-7u25-windows-i586 (JDK version 7)
http://www.mediafire.com/?r8269m9rhnaw1aj
- Oracle Database 11g Express Edition
http://www.4shared.com/zip/hLK0jgjP/OracleXE112_Win32.html
- SQL developer version 4
http://www.4shared.com/zip/ObApR9VH/sqldeveloper-4001227-no-jre.html
ขั้นแรก ติดตั้ง JDK ก่อนค่ะ ถ้าบางคนมีโปรแกรมนี้อยู่แล้วก็ไม่ต้องลงค่ะ เช็คจากโฟลเดอร์ C:\Program Files\Java
ขั้นสอง ลงโปรแกรม Oracle Database 11g Express Edition ค่ะ
จะมีให้ตั้งรหัส เอาแบบที่จำได้น่ะค่ะเพราะต้องใช้ กับ SQL developer ตอน Connect ฐานข้อมูลด้วยค่ะ
ใครอยากได้แบบละเอียด สงสัยหรือติดปัญหาใดๆ ก็ไปที่นี้เลยค่ะ http://www.project2you.com/software-training/oracle-11g-knowlege เพราะเราก็พึงใบบุญจากเว็บไซต์นี้แหล่ะค่ะ I love you guy!!!!
คลิกที่ ICon "Get Started With Oracle Database 11g Express Edition " จะได้ดังรูปข้างล่างหากว่าเราสามารถติดต่อกับฐานข้อมูลได้ค่ะ ถ้าบ้างคนไม่ขึ้นสงสัยไว้เลยค่ะ
- ลง Oracle Database ถูกกับ OS ของเครื่องตัวเองหรือเปล่า ถ้าเป็น windows ใช้ได้เฉพาะ 32 bit เท่านั้นค่ะ
- ในเครื่องใช้หลาย port หรือเปล่า และ port 8080 ถูกใช้ชนกับโปรแกรมอื่นมั้ย
ต่อมาก็ใช้งานได้เลยค่ะ คลิกที่ "Application Express " จะมีหน้า Login ให้ค่ะ
Usesername: sys
Password: XXXX อะไรที่คุณตั้งตอนลง Oracle Database น่ะค่ะ
ขั้นสาม เปิด SQL developer version 4 ค่ะ เข้าไปที่โฟลเดอ์ที่แตกไฟล์ไว้ค่ะ sqldeveloper-4.0.0.12.27-no-jre\sqldeveloper ดับเปิลคลิกที่ Icon
จะมีเลือก JDK ก็เลือก JDK 7 ไปตามที่โปรแกรม Defalt มาค่ะ
- คลิกขวาที่ Icon "Conections" ----> เลือก "Create Local Connectios..." จะแสดงฐานข้อมูลจำลองในเครื่องของเราขึ้นมาชื่อ "system-XE" ดังรูปข้างล่าง
**** ต้องคลิกเลือก Local Connectios ก่อนการเลือก "News Connection..." เพราะว่าตรงช่อง Connection Name คุณจะไม่เจอสิ่งใดให้เลือกเลยค่ะ*****
- ต่อมา คลิกขวาที่ Icon "Conections" ----> เลือก "News Connection..." จะได้ดังรูป และใส่รหัสค่ะ การคลิกเลือกก็เป็นอันใช้งานได้ค่ะ
ดูข้อมูลการใช้งาน SQL developer เพิ่มเติมที่วิดีโอนี้ค่ะ ของผู้ผลิตค่ะ อิๆ เอาของคนอื่นตลอดค่ะ
ขอจบบทความด้วยบทกลอนของ "ตำหนักหลวงปู่มังกรขาว" ค่ะ
มัวแต่รุ่มร้อน ใครจะชื่นชอบ
อารมณ์ไม่ดี สำเร็จไม่ได้
อารมณ์ไปเถิด คนไม่เข้าใกล้
เสียงดังไปเถิด ลูกมือไม่มี
ไม่มีเหตุผล หามิตรไม่มี
ไม่อดทนไว้ เมื่อไรเจริญ
จะให้ถูกใจ ต้องทำคนเดียว
คิดให้ซึ้งซึ้ง จะรู้สึกเอง
สาธุ สาธุ สาธุ.
วันเสาร์ที่ 8 มิถุนายน พ.ศ. 2556
แตกสลาย
"ความอดทน...มีรางวัลตอบแทนอยู่เสมอ
พยายามเข้าน่ะ
งานที่เหมาะสมกับเราก็ยังมี
พักสมองชั่วคราว เปลี่ยนบรรยากาศใหม่ๆ
งานใหม่ยังรอเราอยู่
ตราบใดที่เรายังมีกำลังใจ
วันเวลาไม่เคยจะหยุดเดินอย่างไรเราก็ต้องเดินไปกับมัน
การร้องไห้ไม่ได้แสดงออกเพียงความอ่อนแอออกมา แต่น้ำตาจะช่วยล้างสิ่งที่เราไม่ต้องการออกไป"
ฉันรู้สึกกำลังเหมือนแกะที่ถูกไล่ต้อน และต้องปล่อยให้ชีวิตหมุนไปอย่างไร้การควบคุม ชีวิตถูกกำหนดโดยคนอื่น ฉันจะอดทนและผ่านวันเวลาแย่แบบนี้ไปได้ใช่มั้ย ใจฉันแตกสลายอยู่ภายใน
วันเสาร์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
อยากลง IIS ด้วยในขณะที่มี Appserv อยู่แล้ว
ในกรณีที่เราลงตัวจำลอง server ไว้หลายตัว เช่น เราอยากจะลง IIS ด้วยในขณะที่มี Appserv อยู่แล้ว เราต้องทำการ Uninstall เจ้า Appserv ออกก่อนค่ะ ทำไมต้อง Uninstall นั่นก็เพราะมันจะทำให้ Port ชนกัน โดยปกติแล้ว default port คือ 80 ทำให้เปิดหน้า localhost ของ IIS ไม่ได้ (ตอนลง Appserv เราลง Port 80 อยู่ก่อนแล้ว)
เราจึงต้องลง IIS ก่อน แล้วจึงค่อยลง Appserv ทีหลังโดยกำหนดให้เป็น Port 8080 ดังรูป
เมื่อจะเข้าใช้งานเราต้องพิมพ์ Port เพิ่มเข้าไปด้วยดังนี้ http://localhost:8080/
Port 8080 คืออะไร? ข้าน้อยก็ไม่ค่อยทราบละเอียดดี เอาเป็นคร่าวๆดังนี้คือ Port ที่เรียกการใช้งาน Server เพื่อเข้าชมเว็บไซต์เหมือนกับ Port 80 (Protocol ที่ใช้ติดต่อคือ HTTP สำหรับการร้องขอหรือตอบกลับนั่นคือร้องขอให้แสดงหน้าเว็บไซต์ ทำงานอยู่บน Protocol tcp)
ถามอาจารย์ Google อาจจะได้คำตอบที่เข้าใจขึ้นค่ะ (^_^) แฮะๆ เราก็ทำเน้อ...
Hint: ถ้าทำทุกอย่างแล้วแต่เปิดใช้เจ้า IIS หรือ Appserv ไม่ได้เลย ต้องไปเช็คน่ะค่ะว่าเปิดใช้ Services หรือยัง? มีวิธีการ Start ดังรูปค่ะ
IIS
1. เข้าไปที่ Control Panel
3. Start ซะ
Appserv
เข้าผ่าน ปุ่ม Start
ของ Desktop
หรือจะเข้าผ่าน Control Panel
เราจึงต้องลง IIS ก่อน แล้วจึงค่อยลง Appserv ทีหลังโดยกำหนดให้เป็น Port 8080 ดังรูป
เมื่อจะเข้าใช้งานเราต้องพิมพ์ Port เพิ่มเข้าไปด้วยดังนี้ http://localhost:8080/
Port 8080 คืออะไร? ข้าน้อยก็ไม่ค่อยทราบละเอียดดี เอาเป็นคร่าวๆดังนี้คือ Port ที่เรียกการใช้งาน Server เพื่อเข้าชมเว็บไซต์เหมือนกับ Port 80 (Protocol ที่ใช้ติดต่อคือ HTTP สำหรับการร้องขอหรือตอบกลับนั่นคือร้องขอให้แสดงหน้าเว็บไซต์ ทำงานอยู่บน Protocol tcp)
ถามอาจารย์ Google อาจจะได้คำตอบที่เข้าใจขึ้นค่ะ (^_^) แฮะๆ เราก็ทำเน้อ...
Hint: ถ้าทำทุกอย่างแล้วแต่เปิดใช้เจ้า IIS หรือ Appserv ไม่ได้เลย ต้องไปเช็คน่ะค่ะว่าเปิดใช้ Services หรือยัง? มีวิธีการ Start ดังรูปค่ะ
IIS
1. เข้าไปที่ Control Panel
2. Internet Information Services (IIS) Manager
Appserv
เข้าผ่าน ปุ่ม Start
ของ Desktop
ป้ายกำกับ:
Appserv
วันพุธที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2556
แก้ Error : Could not load language Thai ใน Opencart
เกิด error : Could not load language Thai
บางคนอาจจะเจอแตกต่างกัน สำหรับผู้เขียนนั้นผิดพลาดเพราะเผลอตั้งค่าภาษาใน admin Opencart เป็นภาษาไทย โดยที่ลืมไปว่าในโฟล์เดอร์ \admin\language มันไม่มีโฟล์เดอร์ภาษาไทยในนั้น (ผู้เขียนมีโฟล์เดอร์ภาษาไทยอยู่ใน \catalog\language ซึ่งมันจะแสดงผลเฉพาะหน้าร้านเท่านั้น ส่วนหลังร้านก็จะอยู่ในโฟล์เดอร์ \admin\language ต้องแปลคนล่ะส่วนกัน) ตั้งค่าผิดดังรูปค่ะ
บางคนอาจจะเจอแตกต่างกัน สำหรับผู้เขียนนั้นผิดพลาดเพราะเผลอตั้งค่าภาษาใน admin Opencart เป็นภาษาไทย โดยที่ลืมไปว่าในโฟล์เดอร์ \admin\language มันไม่มีโฟล์เดอร์ภาษาไทยในนั้น (ผู้เขียนมีโฟล์เดอร์ภาษาไทยอยู่ใน \catalog\language ซึ่งมันจะแสดงผลเฉพาะหน้าร้านเท่านั้น ส่วนหลังร้านก็จะอยู่ในโฟล์เดอร์ \admin\language ต้องแปลคนล่ะส่วนกัน) ตั้งค่าผิดดังรูปค่ะ
เกิด error แบบนี้จะไปเข้าหน้า admin ก็ไม่ได้เราเลยต้องไปแก้ไขในฐานข้อมูลค่ะ ผู้เขียนลองทำใน Localhost อยู่ยังไม่ได้ขึ้นระบบจริง เข้าไปแก้ในตารางที่ ชื่อว่า "setting" ชื่อแถวว่า "config_admin_language" จะ search ก็ได้ง่ายดี ใช้คำ "config_admin_language" ไป search ค่ะ และ เปลี่่ยนจาก th เป็น en แล้วบันทึก ดังรูปค่ะที่ผิดเพราะถูกตั้งค่าเป็น th โดยที่มันไม่มีภาษานี้อยู่ในโฟล์เดอร์ admin เลย
หรืออีกวิธีหนึ่ง อาจจะใช้วิธี Copy โฟล์เดอร์ "English" มาวางก่อนแล้วเปลี่ยนชื่อเป็น "thai" ก็ได้ค่ะ
พอระบบหาโฟล์เดอร์เจอก็จะเข้าหน้า admin ได้
ปัญหาเล็กน้อยแต่ผู้เขียนก็เกือบจะลบลงใหม่แล้วโง่จริง เมื่อมีปัญหาก็ใจเย็นๆ ค่อยๆคิด มันจะเจอทางออกจริงๆด้วยค่ะ
ป้ายกำกับ:
Opencart
สมัครสมาชิก:
บทความ (Atom)